ช่วงทดลองงาน (Probation) เป็นช่วงของการเรียนรู้งาน ส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะเวลา 3 – 4 เดือน
แล้วถ้าลาออกช่วงทดลองงาน ยังไม่ครบตามระยะเวลาที่กำหนด ประวัติจะเสียไหม ?
JOBBKK มี 2 แนวคิดสำคัญที่อยากแนะนำ ดังนี้ครับ
1 ประวัติการทำงานที่ลาออกช่วงโปร ในมุมของผู้สมัครงาน อาจต้องพิจารณาว่าหากนำมาใส่ในเรซูเม่จะมีผลกระทบต่อการสมัครงานหรือไม่ โดยปกติแล้ว ทักษะความสามารถและองค์ความรู้ที่ได้จากการทำงานจนเกิดเป็นประสบการณ์ที่นำไปต่อยอดได้ ควรมาจากการเรียนรู้งานในระยะเวลาอย่างน้อยที่สุดคือ 6 เดือนขึ้นไป ดังนั้น ต้องพิจารณาว่าจะใส่ข้อมูลประสบการณ์ทำงานในเรซูเม่สำหรับใช้หางานใหม่ที่มีการลาออกช่วงโปรเข้าไปหรือไม่ หากจะใส่เข้าไปก็ต้องมีเหตุผลที่ดีพอสมควร ว่าทำไมจึงออกจากงานทั้งที่เพิ่งเริ่มทำครับ
2 หากไม่ใส่ข้อมูลการทำงานช่วงสั้นในข้อ 1 เข้าเรซูเม่ คุณจะถูกถามว่า ในช่วงเวลานั้นคุณทำอะไร คำตอบข้อนี้สำคัญมากครับ ต้องบอกเลยว่า การมีประวัติลาออกช่วงโปร ส่งผลให้คุณอาจถูกมองติดลบซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ผู้สัมภาษณ์ต้องกังวลอยู่แล้ว ว่าคุณจะเข้ามาทำพฤติกรรมแบบนี้อีกรึเปล่า เพราะทุกบริษัทก็คงต้องการคนที่เข้ามาทำงานอยู่กับเขานานๆ
ถามว่าจะถูกตัดสินว่า ประวัติเสียไหม ? ก็ขึ้นอยู่กับเหตุผลครับ ลาออกเพราะอะไร ? ถ้าเหตุผลฟังได้ ลาออกช่วงสั้นก็ไม่ถูกติดลบอะไร
ถ้ามีแต่โทษบริษัท ต่อว่าคนอื่น ไม่ชอบสังคมที่นั่น หรือเข้ากับใครไม่ได้เพราะอะไรๆ ก็ไม่ค่อยตรงกัน โอกาสได้งานก็คงยาก
แต่ถ้าเป็นเรื่องเนื้องานไม่ตรงความสามารถ ไม่ตรงตามที่สัมภาษณ์ไว้ จึงตัดสินใจลาออกเพื่อไม่ให้บริษัทนั้นเสียเวลากับคุณ (แต่ก็ต้องอธิบายได้นะครับ ว่าไม่ตรงยังไง และก็ต้องตอบได้ด้วย ว่าคุณมีความสามารถที่พร้อมทำงานกับที่ใหม่นี้มากแค่ไหน อย่างไรด้วย)
หรืออาจเป็นเรื่องปัญหาการเดินทาง – เวลาการทำงาน ซึ่งคุณมองว่าไม่สะดวกที่จะทำต่อจริง ๆ หลังจากที่มาทำงานจริงแล้ว
เหตุผลแบบนี้ก็คงเป็นที่เข้าใจได้บ้างครับ
อย่างไรแล้ว เมื่อต้องการลาออก อย่าลืมแจ้งล่วงหน้าให้เขารับทราบพร้อมเซ็นเอกสารทุกอย่างให้เรียบร้อยด้วยนะครับ ถ้าหนีหายไปเฉยๆ ไม่บอกกล่าวใด ๆ อันนี้ประวัติเสียแน่นอน
การทำงานไม่ว่าจะที่ไหน ไม่ควรสร้างรอยร้าวหรือเรื่องติดใจอะไรกันไว้ เพราะอนาคตเราอาจต้องมาเจอกัน ต้องร่วมงานกันอีก ...เรื่องบังเอิญ เรื่องที่คิดว่าคงไม่เกิดขึ้น มักเกิดขึ้นได้เสมอครับ
การสัมภาษณ์งานไม่ควรตอบสิ่งที่ไม่เป็นความจริง เพราะผู้สัมภาษณ์เขามีวิธีการถามเพื่อค้นหาความจริงจากคุณอยู่แล้ว และเขาก็คงไม่อยากรับคนไม่พูดความจริงเข้ามาทำงานด้วยครับ
แล้วถ้าอยู่ทำงานต่อจนครบโปรแล้วก็ไม่ผ่าน ... !!
แบบนี้ประวัติจะเสียไหม ? ควรระบุในเรซูเม่ยังไง ? แล้วจะตอบสัมภาษณ์อย่างไรดี ?
เรื่องนี้ JOBBKK มีคำตอบให้คุณในคอนเทนต์หน้า อย่าลืมติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูล : อาจารย์ พรเทพ พงษ์สง่างาน ที่ปรึกษาอาวุโสด้าน HR และกรรมการ บริษัท เซ็นเมนทอร์ จำกัด ,กรรมการบริหาร APK Management Center
Website : www.senmentor.com
Line : wisebrown
Tel : 081-820-9271
มีโอกาสได้งานทันที เพียงสมัครเรซูเม่วันนี้ ฟรี คลิก >> https://jobbkk.com/go/jWldX
หางานด่วน เปิดรับกว่า 153,168 อัตรา คลิก >> https://jobbkk.com/go/YtvVO
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
